ข่าวเผยแพร่

เพื่อเป็นเกียรติแด่แม่ชีเทเรซา

ดัดแปลงจากบทความโดยแดเนียลล์ คริสเต็นเซ็น, เดเซเร็ทนิวส์

   

ซิสเตอร์แมรีย์ พรีมา ผู้นําคณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม พร้อมกับตัวแทนจากทุกศาสนาเข้าร่วมกิจกรรม ‘ตามรอยแม่’ เพื่อระลึกถึงชีวิตแห่งการบำเพ็ญคุณประโยชน์ของแม่ชีเทเรซาในโกลกาตา อินเดีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2016

แม่ชีเทเรซา ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เป็นที่รู้จักทั่วโลกสำหรับศรัทธาและงานดีของเธอ เธอถึงแก่กรรมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ฝ่ายประธานสูงสุดของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (แอลดีเอส) ส่งสาส์นแสดงความเสียใจต่อศาสนจักรคาทอลิก ณ เวลาที่เธอถึงแก่กรรม โดยกล่าวถึงแม่ชีเทเรซาว่า “ชีวิตที่รับใช้อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลก และการบำเพ็ญคุณงามความดีแบบชาวคริสต์ของเธอจะยืนยงเป็นอนุสรณ์แก่อนุชนรุ่นหลัง” คำปราศรัยในการประชุมใหญ่สามัญนี้มีคำพูดอ้างอิงสั้นๆ และเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของแม่ชีเทเรซา

      

คำปราศรัยในการประชุมใหญ่สามัญปี 2010 เรื่อง “จิตกุศลไม่มีวันสูญสิ้น” ประธานโธมัส เอส. มอนสันขอให้สมาชิกศาสนจักรแอลดีเอสมีความรักมากขึ้นและละเว้นการตัดสินกัน “คุณแม่เทเรซา แม่ชีคาทอลิกผู้ทำงานท่ามกลางคนยากไร้ในอินเดียมาเกือบตลอดชีวิตพูดถึงสัจธรรมอันลึกซึ้งนี้ ‘ถ้าท่านตัดสินผู้อื่น ท่านย่อมไม่มีเวลารักพวกเขา’” ท่านกล่าว

ในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายนปี 2009 เอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์กระตุ้นให้ผู้อื่นมองไปข้างนอกและรับใช้คนเหล่านั้นที่ขัดสน “แบบอย่างที่ดีของการรับใช้อย่างไม่เห็นแก่ตนเองคือแม่ชีเทเรซาแห่งกัลกัตตาผู้ล่วงลับ เธอให้คำมั่นว่าตัวเธอและผู้ร่วมงานจะ ‘ทุ่มเทรับใช้คนยากไร้ที่ยากไร้ที่สุด’” ท่านกล่าว “เธอสอนว่า ‘สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราได้ขึ้นสวรรค์แน่นอนคือ—การกระทำที่เกิดจากจิตกุศลและความเมตตาซึ่งเรานำมาเติมเต็มชีวิตเรา’”

คำปราศัยในการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคมปี 2014 เรื่อง “เราทั้งหลายไม่ได้เป็นขอทานหรอกหรือ?” เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์เล่าเรื่องต่อไปนี้เกี่ยวกับแม่ชีเทเรซา

 

“นักข่าวคนหนึ่งเคยถามแม่ชีเทเรซาแห่งกัลกัตตาเกี่ยวกับภารกิจอันไร้ซึ่งความหวังของเธอในการช่วยเหลือคนอนาถาในเมืองนั้น นักข่าวกล่าวว่าในเชิงสถิติ แม่ชีไม่ได้ทำอะไรสำเร็จเลย สตรีร่างเล็กผู้น่าทึ่งคนนี้ตอบกลับว่างานของเธอเกี่ยวกับความรัก ไม่ใช่สถิติ

แม้จะมีผู้คนจำนวนมากมายเกินกว่าที่เธอจะเอื้อมมือไปช่วยเหลือได้ แต่เธอกล่าวว่าเธอจะรักษาพระบัญญัติที่ให้รักพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนบ้านของเธอโดยการรับใช้ผู้ที่เธอเอื้อมถึงด้วยทรัพยากรทุกอย่างที่เธอมี ในบางโอกาสเธอจะพูดว่า ‘สิ่งที่เราทำอาจเป็นเหมือนหยดน้ำในมหาสมุทร แต่ถ้าเราไม่ทำ มหาสมุทรก็จะมีน้ำน้อยลงไปอีกหนึ่งหยด’ นักข่าวสรุปอย่างจริงจังว่าศาสนาคริสต์ไม่ใช่ความมานะบากบั่นเกี่ยวกับตัวเลขสถิติ เขาให้เหตุผลว่าถ้าในสวรรค์มีปีติมากเมื่อคนบาปคนเดียวกลับใจยิ่งกว่าเก้าสิบเก้าคนที่ไม่ต้องการกลับใจ แสดงว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ใส่พระทัยเรื่องสถิติมากนัก”

ซิสเตอร์ชิเอโกะ เอ็น. โอคาซากิ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญปี 1990-1997 กระตุ้นให้พี่น้องสตรีของศาสนจักรแอลดีเอสแสดงความรัก ความเมตตาสงสาร และให้อภัยผู้อื่นมากขึ้น “อย่ารู้สึกว่าของประทานของท่านไม่สำคัญ” ซิสเตอร์โอคาซากิกล่าวในการประชุมใหญ่สามัญเดือนตุลาคม ปี 1991 “แม่ชีเทเรซากล่าวว่า ‘ฉันเป็นดินสอแท่งเล็กๆ ในพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงมีพระดำริ พระองค์ทรงลิขิต พระองค์ทรงทำทุกอย่าง — และเป็นเรื่องยากมาก — บางครั้งดินสอหัก พระองค์ต้องเหลาดินสอแท่งนั้นให้แหลมขึ้นอีกนิด แต่จงเป็นเครื่องมือชิ้นเล็กๆ ในพระหัตถ์ของพระองค์เพื่อพระองค์จะทรงใช้ท่านได้ทุกที่ ทุกเวลา… เราเพียงขานรับพระดำรัสของพระองค์เท่านั้น’”

หมายเหตุแนวทางการเขียน:เมื่อรายงานเกี่ยวกับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย โปรดใช้ชื่อเต็มของศาสนจักรในการอ้างถึงครั้งแรก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ชื่อของศาสนจักร ไปที่ออนไลน์แนวทางการเขียน.