โดยมีรูปแบบเป็นดังนี้—ชายและหญิงในฐานะหุ้นส่วนและผู้นำทางวิญญาณที่เท่าเทียมกันในครอบครัวและบ้านของตน—นั่นคือสิ่งที่เอ็ลเดอร์ ดัลลิน เอช. โอ๊คส์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองยืนยันเมื่อท่านกล่าวว่า “เราให้คำมั่นสัญญาต่อการแต่งงานแบบที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยซึ่งมีผลบังคับใช้มาหลายพันปีแล้ว”
ในการพูดเรื่องการแต่งงานที่การประชุมสุดยอดสำนักวาติกันเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2014 ประธาน เฮนรีย์ บี. อายริงก์ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสูงสุด ได้ยกการแต่งงานของท่านเองขึ้นเป็นหลักฐาน “ของพลังอำนาจแห่งการครองคู่ของชายหนึ่งคนและหญิงหนึ่งคนในการแต่งงาน”
ท่านกล่าวว่า: “เราเติบโตด้วยกันสู่ความเป็นหนึ่ง—ค่อยๆ ยกระดับและปรับรูปแบบกัน ปีแล้วปีเล่า ขณะที่เราซึมซับพลังความเข้มแข็งจากกัน สิ่งนี้ไม่เคยลดคุณค่าแห่งของประทานส่วนตัวของเรา ความแตกต่างของเราสองผสานกัน . . . เพื่อสร้างสรรค์ทั้งครอบครัวให้ดีกว่าเดิม แทนที่ความแตกต่างจะแยกเราออกจากกันกลับทำให้เราผูกพันกันยิ่งขึ้น
- การแต่งงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่
- การแต่งงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่
- การแต่งงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่
- การแต่งงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่
- การแต่งงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่
- การแต่งงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่
1 / 2 |
ท่านกล่าวต่อไปเพื่อเตือนเราถึงสิ่งที่เราต้องทำเพื่อช่วยสร้างสรรค์ “ศิลปะวิทยาของชีวิตการแต่งงานและชีวิตครอบครัว: เราต้องค้นหาวิธีที่จะนำผู้คนไปสู่ความเชื่อที่พวกเขาสามารถแทนที่ความสนใจในตนเองตามธรรมชาติของเขา ด้วยความรู้สึกอันลึกซึ้งและไม่สิ้นสุดของจิตกุศล . . . ด้วยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และด้วยสิ่งนี้เท่านั้น ผู้คนจะสามารถเสียสละอย่างไม่เห็นแก่ตัวได้ทุกช่วงเวลาซึ่งจำเป็นสำหรับชีวิตการแต่งงานและชีวิตครอบครัวที่มีความสุข—และทำไปพร้อมรอยยิ้ม”
จิตกุศล ความรักอันบริสุทธิ์ของพระคริสต์ เป็นรากฐานซึ่งเราสร้างการแต่งงานและครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ สิ่งนี้เป็นกระบวนการ ไม่ใช่เหตุการณ์ ซึ่งจะเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่การแต่งงานและบ้านของเราได้อย่างไม่มีข้อสงสัย
ทั้งโดยส่วนตัวและเป็นครอบครัว ขอให้เราทำในส่วนของเราเพื่อช่วยสร้างสรรค์ “ศิลปะวิทยาของชีวิตการแต่งงานและชีวิตครอบครัว” ขณะเราปลูกฝังจิตกุศล ให้เราละ “ฉัน” และ “ของฉัน” ไว้ แล้วมุ่งความสนใจไปที่ “เรา” และ “ของเรา” เพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ให้รวมความพยายามของเราให้เป็นหนึ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่การแต่งงานและบ้าน ตามรูปแบบของพระผู้เป็นเจ้า โดยมีพระผู้ช่วยให้รอดเป็นศูนย์กลาง เราสามารถคาดหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากสวรรค์เพราะ “ครอบครัวเป็นศูนย์กลางต่อแผนของพระผู้สร้างเพื่อจุดหมายปลายทางนิรันดร์ของลูกๆ ของพระองค์”
ความคิดนี้นำมาจากการพูดโดยแคโรล เอ็ม. สตีเฟนส์ ฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2015