เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่วันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตรเสด็จสวรรคต ในช่วงเวลาดังกล่าว ได้มีการกล่าวขานถึงเรื่องราวยิ่งใหญ่มากมายที่เป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ เหล่าพสกนิกรต่างหวนรำลึกถึงพระราชจริยวัตรของความเป็นผู้นำที่กล้าหาญและพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ยากยิ่งที่จะมีประเทศใดในโลกนี้โศกเศร้าอาลัยต่อการจากไปของผู้เป็นประมุขได้เทียบเท่าประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นผู้นำในทุกด้าน จินตนาการใดใดก็มิอาจบรรยายความรักที่พสกนิกรชาวไทยมีต่อพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงห่วงใยอย่างแท้จริงถึงการที่จะทรงช่วยเหลือประเทศชาติและพสกนิกรของพระองค์ ทรงสอนพวกเขาถึงวิธีพึ่งพาตนเอง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การพัฒนาตนเอง ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความห่วงใยกัน พระองค์ทรงสอนสิ่งทั้งปวงนี้โดยพระบรมราโชวาทและการดำเนินพระชนม์ชีพเป็นแบบอย่าง ในฐานะ “บิดา” ของพสกนิกรชาวไทย พระองค์ทรงสอนลูกๆ ถึงคุณค่าของลักษณะนิสัยเก้าประการ ดังนี้
๑. ความเพียร – การสร้างตนต้องใช้เวลา ใช้ความมานะบากบั่น ความอดทน การเสียสละ และไม่ย่อท้อ
๒. เป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ – ไม่พึงเป็นผู้รับอย่างเดียว ต้องเป็นผู้ให้ด้วย
๓. จงอ่อนน้อมถ่อมตน – ความอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ใช่ความอ่อนแอ จงพร้อมที่จะเสียสละเพื่อผู้อื่น
๔. ความพอดี – ในการสร้างตนสร้างฐานะในชีวิตนั้นต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทำเกินฐานะและกำลังที่จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๕. รู้จักประมาณตน – การรู้จักตนเอง จะทำให้ควบคุมตนเองได้ คนที่ควบคุมตนเองได้ จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้ดี
๖. เอาชนะใจตนเอง – ต้องกล้าหาญและมีมานะบากบั่นทำสิ่งที่เรารู้ว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง
๗. ความซื่อสัตย์ – เป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง
๘. อ่าน – หนังสือเป็นออมสิน เป็นธนาคารความรู้ที่สำคัญมาก
๙. เป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต – พูดจริงทำจริง – ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไรทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ
ลักษณะนิสัยทั้งเก้าประการนี้ไม่เพียงทำให้คนเป็นคนดีเท่านั้นแต่จะเป็นคนดีที่มีความสุขด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงสอนพสกนิกรชาวไทยให้กล้ามองไกลกว่าตนเองและดำเนินชีวิตด้วยความปรารถนาที่จะช่วยเหลือและพัฒนาผู้อื่น ดังที่พระองค์ทรงทำ ถ้าผู้นำทั่วโลกสอนหลักธรรมในลักษณะเดียวกันนี้แก่ประชาชนในประเทศ เราทั้งหลายจะมีชีวิตอยู่ด้วยความสงบสุขและสามัคคีกันมากกว่านี้ พระชนม์ชีพของพระองค์เป็นเสมือนพระบรมราโชวาทอย่างแท้จริง...หาได้เป็นเพียงพระราชดำรัสไม่ แต่เป็นพระราชกรณียกิจที่แสดงให้เห็นพระราชปณิธานของพระองค์ต่อลักษณะนิสัยต่างๆ ที่พระองค์ทรงสอนไว้