การไม่หายใจในทารกแรกเกิด ขณะคลอดเป็นการศูนย์เสียที่ร้ายแรงสำหรับแม่คนใหม่ เช่นเดียวกับทีมแพทย์ที่กำลังช่วยนำชีวิตใหม่มาสู่โลก โดยมีสถานการณ์ที่เป็นเคราะห์ร้ายที่ป้องกันได้นี้อยู่ความรับผิดชอบ จึงจำเป็นต้องมีการอบรมผู้ดูแล เพื่อให้ชีวิตที่จะเกิดมาปลอดภัย แล้วนายแพทย์สรายุทธ สุภาพรรณชาติ ก็เข้ามา หลายคนรู้สึกว่าการค้นพบของคุณหมอสรายุทธป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า ช่วยเสริมพลังอย่างมากให้กับโปรแกรมนี้ โปรแกรมช่วยชีวิตทารกแรกเกิดได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว มีการนำผู้คนมารับการสอนให้ช่วยเหลือ เงินทุนถูกจ่ายออกไปเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การสอนและการอบรม ชั้นเรียนหลายชั้นจัดขึ้นผู้คนมากมายได้รับการสอน และโดยมีคุณหมอสรายุทธเป็นผู้รับผิดชอบ โปรแกรมนี้ได้เติบโตขึ้นเป็นโปรแกรมการฝึกอบรมการให้ชีวิตที่ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
ในฐานะประธานชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทย คุณหมอสรายุทธ สุภาพรรณชาติเป็นนักเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดที่อุทิศตนให้กับทารกในประเทศไทย โดยที่ได้รับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจากประเทศเยอรมนี ท่านจึงเข้าใจแง่มุมด้านธุรกิจที่จะทำให้โปรแกรมกู้ชีพทารกแรกเกิดสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองด้วย ท่านได้อาสาด้วยจิตใจที่เอื้อเฟื้อเป็นเวลา 17 ปีเพื่อให้ความช่วยเหลือทารกและครอบครัวในประเทศไทย
ด้วยการช่วยเหลือจากการให้และการสอนของอาสาสมัคร คุณหมอสรายุทธสามารถพัฒนาและรักษาโปรแกรมทีสอนและฝึกผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานกับการหายใจของทารกไว้ได้ ระหว่างปี 2006 กับปี 2016 องค์การการกุศลแอลดีเอสได้มอบชุดฝึกอบรมการช่วยการหายใจเด็กทารก 370 ชุด ชุดฝึกอบรมการกู้ชีพทารกแรกเกิด 270 ชุด เครื่องกู้ชีพทารกแรกเกิด หูฟังของแพทย์และลูกยางสำหรับดูด 2270 รายการ พร้อมทั้งการอบรมการกู้ชีพทารกแรกเกิด 12 ครั้ง ผลจากการฝึกอบรมเฉพาะกรณีเช่นนี้ อัตราการเสียชีวิตของทารกในประเทศไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัดจาก 20 รายต่อการเกิดมีชีพ 1000 ราย เป็น 12 รายต่อการเกิดมีชีพ 1000 ราย
ปัจจุบันนี้ทั้ง 77 จังหวัดในประเทศไทยมีโปรแกรมการฝึกอบรมการกู้ชีพทารกแรกเกิดและเจ้าหน้าที่จะได้รับการฝึกอบรมซ้ำทุกปี สถานที่อบรมและผู้อบรมจากโรงพยาบาลต่างๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน จะใช้หุ่นฝึกและอุปกรณ์การฝึกอบรมด้วยกันเพื่อการฝึกอบรมที่มีขนาดใหญ่ ปัจจุบันนี้การได้รับวุฒิบัตรการกู้ชีพทารกแรกเกิดซึ่งฝึกซ้ำทุกปีเป็นข้อกำหนดของรัฐบาลสำหรับผู้ให้การดูแลทารกแรกเกิดในประเทศไทย
คุณหมอสรายุทธกล่าวถึงความรู้สึกของท่านว่า “ขณะเขียนจดหมายฉบับนี้ ผมหลั่งน้ำตาแห่งปีติสุข ผมไม่อาจสรรหาถ้อยคำใดๆ ที่จะกล่าวขอบคุณท่านและแน่นอนสมาชิกทุกท่านในศาสนจักรที่ได้เสียสละเพื่อช่วยชีวิตผู้อื่นให้รอด การให้เงินไม่อาจรักษาวิญญาณของผู้คนได้ แต่การช่วยทารกของพวกเขาให้รอดและการทำให้แน่ใจว่าครอบครัวจะมีสุขภาพดีและมีความสุขสำหรับทุกคนจะให้โอกาสพวกเขาที่จะมีชีวิตที่ดีและมีผลผลิตซึ่งจะขยายเผ่าพันธุ์ต่อไป ด้วยความจริงใจจากส่วนลึกของหัวใจชาวไทยทุกคน”