ความทุกข์ทรมานจากโรคประจำตัวทั้งโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่รุมเล้ามากว่า 10 ปี ด้วย ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่กับสามีและลูกๆ ของเธอ ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดขอนแก่น ต้องเปลี่ยนไปหลังจากพบว่าขาของเธอมีแผลและเกิดการอักเสบ ติดเชื้ออย่างรุนแรง จนต้องผ่าตัดขาใต้เข่าข้างซ้ายทิ้งไป เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี ที่เธอ ต้องอยู่ในสภาพของผู้พิการ เดินทางไปไหนมาไหนลำบาก มีเพียงไม้ค้ำยันที่พอจะช่วยพยุงเธอในการเคลื่อนไหว ลุกเดิน ภายในรั้วบ้าน วันไหนที่สามีและลูกไม่อยู่ เธอก็ต้องช่วยเหลือตัวเองเพียงลำพัง ในขณะที่ลูกสาวคนเล็กของเธอมีความผิดปกติของการเจริญเติบโตล่าช้าและเป็นโรคกระดูกสะโพกผิดรูปตั้งแต่แรกเกิด (ปัจจุบันลูกสาวอายุได้ 12 ปี) แม้ว่าจะเคยขอรถเข็นนั่งจากโรงพยาบาลแต่เธอต้องรอเพราะคิวยาวและรถมีจำนวนไม่เพียงพอ เธอต้องการความช่วยเหลือและอยากมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมแบบที่เธอเคยเป็น อยากมีโอกาสไปไหนมาไหนได้สะดวกอีกครั้ง วันหนึ่งเธอได้รับแจ้งจากทางผู้ใหญ่บ้านว่ามีหน่วยงานประสานมายังหมู่บ้าน หากมีผู้พิการที่ต้องการรถเข็นนั่งไว้ใช้ในชีวิตประจำวันให้แจ้งความจำนงไว้ เธอได้ลงชื่อไว้และตั้งตารอคอยอย่างจดจ่อ
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 มูลนิธิศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ร่วมกับสโมสรโรตารีบางรัก และมูลนิธิเซนโยเซฟ ภายใต้การดำเนินงานของ ผู้สอนศาสนาด้านนุษยธรรมของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ได้บริจาคเก้าอี้รถเข็นโดยผ่านความช่วยเหลือจากโรตารีจังหวัดขอนแก่น หลายคันซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นคันที่เธอได้รับบริจาคด้วย เธอได้เล่าว่า “ชีวิตของป้าเปลี่ยนเพราะได้รับพรจากการบริจาคเก้าอี้รถเข็นของศาสนจักรฯ รถที่ได้รับมีคุณภาพที่ดีมาก และสะดวกมากในการใช้ชีวิตประจำวันของเธอ สามีไม่ต้องคอยอุ้มไปเข้าห้องน้ำในเวลากลางคืน ( ซึ่งห้องน้ำอยู่ภายนอกตัวบ้าน) ที่สำคัญคือทำให้ป้าได้มีโอกาสไปในที่ป้าอยากจะไปได้ง่ายขึ้น เพราะมีสองล้อเคลื่อนที่เปลี่ยนชีวิตที่ดีขึ้นจริง ๆ ” “ ป้ายังทำงานเป็น อาสาสมัครประจำหมู่บ้านเหมือนเดิม ทำมาตั้งแต่ปี 2532 มีช่วงที่ผ่าตัดใหม่ๆ ไปไหนไม่ได้ ช่วยคนอื่นก็ไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้มีรถเข็น ก็ทำงานอาสาได้สะดวกขึ้นนะ” “ทางเข้าบ้านมันลื่น ยังไม่มีเงินทำ ถ้าเดินด้วยไม้ค้ำก็จะเสี่ยงลื่นล้ม ใช้รถเข็นมีลื่นบ้างแต่ไม่ล้มน่ะ ป้าก็สบายใจ”