ข่าวเผยแพร่

'Arise... Shine' คอนเสิร์ตพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ จากวงประสานเสียง The Bangkok Voices

เทศกาลอีสเตอร์เป็นช่วงเวลาที่ระลึกถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์หลังจากที่พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขน แสดงถึงการที่พระองค์ทรงมีชัยชนะเหนือความตาย การเกิดใหม่ และความหวัง

สำหรับเทศกาลอีสเตอร์ในปี ค.ศ. 2025 ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายได้รับเกียรติจากวงประสานเสียง The Bangkok Voices ซึ่งก่อตั้งครบรอบ 20 ปีในปีนี้และเป็นเจ้าของรางวัลเหรียญทองการประกวดขับร้องประสานเสียงนานาชาติร่วมถ่ายทอดบทเพลงในคอนเสิร์ตพิเศษ 'Arise... Shine' เพื่อเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ โดยคอนเสิร์ตจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2025 เวลา 16.30 น. ณ อาคารเสริมพระวิหาร ของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย

ภายในงานประกอบด้วยเพลงพิเศษจากคณะนักร้องประสานเสียงสเตคกรุงเทพตะวันตกและการขับร้องเพลงลักษณะ
อะแคปเปลลา (A cappella) หรือ การขับร้องโดยไม่มีเครื่องดนตรีประกอบของวงประสานเสียง The Bangkok Voices มากถึง 13 บทเพลง มีบทเพลงที่เป็นที่รู้จักกว้างขวางอาทิ เช่น You Raise me Up และ How Great Thou Art (พระองค์ยิ่งใหญ่) นอกจากนี้ยังมีเพลงสุดท้ายที่มีการเล่นออร์แกนประกอบเพลง คือ Come, Thou Fount of Every Blessing (ขอพระพรเบื้องบนลงมา) บทเพลงแต่ละท่อนในค่ำคืนนี้เปรียบดั่งคำพยานถึงชัยชนะของพระผู้ช่วยให้รอดเหนือความตายและความหวังอันเจิดจ้าที่พระองค์ทรงมอบแก่เราทุกคน

คุณแม หนึ่งในผู้รับชมการแสดงได้กล่าวว่า

“รู้สึกประทับใจมาก เนื่องจากไม่ได้ดูคอนเสิร์ตคอรัสมานานแล้ว พอได้มาสัมผัส รู้สึกเหมือนกลับบ้าน ชอบเพลง How Great Thou Art เพลงนี้พูดถึงความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าพระเยซูคริสต์ ด้วยความที่ตัวเองนับถือคริสต์ รู้สึกสัมผัสได้ถึงพระวิญญาณ สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ และความรักของพระเยซูคริสต์ที่มีให้กับพวกเรา”

นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติหลายท่าน ได้แก่: คุณรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ รักษาการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย กรมการปกครอง รศ. ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณมณีมาฎ พัฒนกูล ที่ปรึกษาการจัดการความรู้ เครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล เมื่อจบการแสดง เอ็ลเดอร์สุชาติ ไชยชะนะ สาวกเจ็ดสิบภาค ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ได้มอบของที่ระลึกเพื่อแสดงความขอบคุณแก่ นพ.กิตติพร ตันตระรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยเพลงของวงประสานเสียง The Bangkok Voices สำหรับบทบาทอันโดดเด่นและแรงบันดาลใจที่ท่านได้มอบให้ในค่ำคืนนี้

หลังจบการแสดงทางศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ประกอบด้วยคณะผู้จัดงานจากสเตคกรุงเทพ สเตคกรุงเทพเหนือ และสเตคกรุงเทพตะวันตก ได้มีการรับประทานอาหารและถ่ายภาพร่วมกันกับวงประสานเสียง The Bangkok Voices ถือเป็นช่วงเวลาที่พิเศษในการเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ร่วมกัน 

บราเดอร์สุปรีย์ เสาวิจิตร สมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายและหนึ่งในสมาชิกวงประสานเสียง The Bangkok Voices ได้กล่าวว่า

“หลังจากงาน He is the Gift ซึ่งทางคณะผู้จัดงานได้เชิญคุณหมอกิตติพรมาเล่นออร์แกนให้กับงานคริสต์มาสของเรา จากนั้นผมก็ได้รับการทาบทามให้ไปออดิชันกับวงประสานเสียง The Bangkok Voices ก็ได้ไปออดิชัน แล้วปรากฎว่าผ่าน จากนั้นเรื่อยมาก็ได้ซ้อมกับทางวงตั้งแต่เดือนมกราคมเพื่อเตรียมบทเพลงสรรเสริญพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ ซึ่งหลายบทเพลงเป็นบทเพลงที่ไม่ง่ายและต้องใช้ความพยายามมาก และการได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของวงและเป็นสมาชิกและได้แสดงที่บ้านของเราถือเป็นความพิเศษและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่ก็มาด้วยความกดดัน เพราะอีกตำแหน่งหนึ่งคือเป็นผู้จัดงาน แต่ด้วยการส่งเสริมของฝ่ายประธานสเตคทั้งสามท่านในกรุงเทพ และคณะผู้จัดงานก็ได้ทำให้งานนี้ออกมาสมเกียรติ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการจัดงานครั้งนี้ นั่นคือการถวายสดุดีแด่พระเจ้าผ่านเสียงเพลงและนอกจากนั้นก็ได้ให้แรงบันดาลใจกับสมาชิกที่ได้รับฟังคณะนักร้องประสานเสียงระดับประเทศด้วยครับ ตอนแสดงรู้สึกตื่นเต้น ตื้นตัน อย่างบอกไม่ถูก สองเพลงสุดท้ายเป็นเพลงที่วิสุทธิชนรู้จักเป็นอย่างดี คือ How Great Thou Art (พระองค์ยิ่งใหญ่) และ Come, Thou Fount of Every Blessing ซึ่งเป็นเพลงที่ไพเราะ สง่างามและร้องยากมาก ตอนซ้อมผู้นำวงตั้งใจบอกให้นักร้องตั้งใจฝึกซ้อมและร้องเป็นพิเศษ เนื่องจากเพลงทั้งสองผูกพันกับวิสุทธิชนยุคท้ายเป็นอย่างมาก เมื่อแสดงจบ มีเสียงปรบมือยาวพร้อมการ standing ovation หรือได้รับการยืนปรบมือจากผู้ชมการแสดง จุดนั้นผมรู้สึกโล่งและสำนึกคุณที่ได้มีโอกาสแสดงประจักษ์พยานผ่านเสียงเพลง และที่ผมดีใจอีกอย่างก็คือการที่ผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักรได้เรียนรู้วัฒนธรรมของโบสถ์เราด้วยครับ”

ขอบคุณบทความข่าว : โดย จิราวดี แสนสุริวงศ์