ข่าวเผยแพร่

ผู้นำศาสนจักรทำพิธีเบิกดินพระวิหารในกรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ – ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ทำพิธีเบิกดินพระวิหารแห่งแรกในประเทศไทย วันเสาร์ที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2019  เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ซี. เกย์ แห่ง ฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบ ควบคุมการประชุมและมีส่วนร่วมในพิธีการกับสมาชิกศาสนจักร 700 คนและผู้นำชุมชนในท้องที่  สมาชิกคนอื่นๆ ร่วมพิธีเบิกดินผ่านการถ่ายทอดในอาคารประชุมศาสนจักรทั่วประเทศ

 

พิธีเบิกดินจัดในบริเวณสถานที่ตั้งพระวิหาร ที่ 1645/6 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มักกะสัน ในเขตราชเทวี ซึ่งเป็นศูนย์กลางแหล่งที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจในกรุงเทพฯ

“ใจข้าพเจ้าเปี่ยมปีติและความสำนึกคุณที่ได้อยู่ที่นี่วันนี้” เอ็ลเดอร์เกย์กล่าว “เพราะความซื่อสัตย์ของวิสุทธิชนในประเทศไทย พระนิเวศน์ของพระเจ้าจึงจะสร้างขึ้นในประเทศนี้ หลายคนจะมีโอกาสร่วมนมัสการพระวิหารกับครอบครัวของตนเองและรับพรนิรันดร์ที่มาจากการนมัสการนั้น”

เอ็ลเดอร์เดวิด เอฟ. อีแวนส์ ประธาน ภาคเอเชีย ร่วมพิธีเบิกดินกับท่านด้วย ท่านเป็นผู้พูดและกล่าวคำสวดอ้อนวอนอุทิศ  ผู้นำอาวุโสของศาสนจักรท่านอื่นๆ ได้แก่ เอ็ลเดอร์ปีเตอร์ เอฟ. เมอร์ส และเอ็ลเดอร์ เดวิด พี. โฮเมอร์ สมาชิกในฝ่ายประธานภาคเอเชีย เอ็ลเดอร์วิศิษฐ์ คณาคำ สาวกเจ็ดสิบภาค

                       

“วันนี้เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์สำหรับศาสนจักรในประเทศไทย” เอ็ลเดอร์อีแวนส์กล่าว “เป็นเวลานานกว่า 50 ปี วิสุทธิชนผู้ซื่อสัตย์ในประเทศไทยเฝ้ารอและสวดอ้อนวอนสำหรับวันนี้ การก่อสร้างพระวิหารจนเสร็จสมบูรณ์จะเป็นพรแก่สมาชิกศาสนจักร ตลอดจนทุกคนที่เห็นความสวยงามของพระวิหารและสัมผัสถึงสันติสุขที่จะพบได้บนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย”

ผู้ร่วมพิธีอีกท่านหนึ่งคือ ท่านศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยภริยา ม.ร.ว. เบญจาภา ไกรฤกษ์ ดร. พิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้มีเกียรติท่านอื่นๆ

ศาสนจักรจะสร้างพระวิหารที่สง่างาม สูงหกชั้น พื้นที่ 44,405 ตารางฟุต มียอดแหลมหลายยอดชี้ขึ้นสู่สวรรค์  พระวิหารจะเป็นสถานที่แห่งความสวยงามและสันติสุขที่ทุกคนจะมาได้

นอกเหนือจากพระวิหาร จะมีอาคารขนาด 91,370 ตารางฟุต มีอาคารประชุมทางศาสนาสองหลัง อาคารสำหรับเซมินารีและสถาบัน สำนักงานศาสนจักรและบ้านพัก มีการวางแผนสำหรับที่จอดรถใต้ดินขนาดใหญ่เช่นกัน

พระวิหารของวิสุทธิชนยุคสุดท้ายแตกต่างจากอาคารประชุมหรือโบสถ์ของศาสนจักรที่สมาชิกพบกันเพื่อนมัสการวันอาทิตย์  พระวิหารถือเป็น “พระนิเวศน์ของพระเจ้า” ที่คำสอนของพระคริสต์ได้รับการเน้นย้ำผ่านการแต่งงานและศาสนพิธีอื่นๆ ซึ่งเชื่อมครอบครัวไว้ด้วยกันชั่วนิรันดร์  ในพระวิหาร สมาชิกศาสนจักรเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับจุดประสงค์ของชีวิต เสริมสร้างความมั่นคงในคำมั่นสัญญาที่จะรับใช้พระเยซูคริสต์และคนรอบข้าง

ซิสเตอร์วิภารัตน์ อ้วนโพธิ์กลาง เป็นผู้พูดที่พิธีเบิกดินเช่นกัน  เธอกับสามีดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์ขณะเลี้ยงดูบุตรชายสามคนในพระกิตติคุณ  เช่นเดียวกับสมาชิกศาสนจักรชาวไทยคนอื่นๆ ครอบครัวนี้เฝ้ารอที่จะได้รับพรพระวิหารในประเทศของตนเอง

                     

“เราสวดอ้อนวอนทูลขอพระวิหารในประเทศไทยมานานมาก” ซิสเตอร์วิภารัตน์กล่าว “เราขอบพระทัยที่ลูกๆ ของเราจะได้รับพรของการได้รับศาสนพิธีพระวิหารและรับการผนึกเมื่อพวกเขาไปรับใช้งานเผยแผ่และแต่งงาน พระวิหารนำปีติและความหวังมาให้เราขณะที่เราพยายามสอนลูกๆ และช่วยให้พวกเขาสัมผัสถึงความรักที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีให้พวกเขา”

ทุกวันนี้มีวิสุทธิชนยุคสุดท้ายในประเทศไทย 22,000 กว่าคน จัดเป็นที่ประชุม 42 แห่ง พระวิหารจะรับใช้สมาชิกศาสนจักรในประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง

ปัจจุบันมีพระวิหาร 201 แห่งทั่วโลก ทั้งหมดนี้เป็นพระวิหารที่เปิดทำการ อยู่ระหว่างการก่อสร้างหรือประกาศสร้าง

หลังจากพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทยสร้างเสร็จสมบูรณ์ ศาสนจักรจะประกาศกำหนดการโอเพ่นเฮาส์เพื่อเปิดให้สาธารณชนเข้าชมในลำดับต่อไป วันอุทิศพระวิหารจะประกาศให้ทราบเช่นกัน

                

หมายเหตุแนวทางการเขียน:เมื่อรายงานเกี่ยวกับศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย โปรดใช้ชื่อเต็มของศาสนจักรในการอ้างถึงครั้งแรก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ชื่อของศาสนจักร ไปที่ออนไลน์แนวทางการเขียน.