ฤดูร้อนปีนี้มีกิจกรรมมากมายทั่วเอเชียเมื่อเยาวชนศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายราว 1,400 คนเข้าร่วมการประชุมใหญ่ เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน (FSY-เอฟเอสวาย) ในสี่ประเทศ
การประชุมห้าวันนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในอินโดนีเซีย มองโกเลีย และจัดขึ้นเป็นครั้งที่สองในฮ่องกงและไต้หวัน ประสบการณ์ดังกล่าวไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนอายุ 14-18 ปีที่เข้าร่วมเท่านั้น แต่เป็นประโยชน์ต่อหนุ่มสาวโสดอายุ 20-31 ปีจำนวน 230 คนที่รับใช้เป็นผู้นำของพวกเขาด้วย
“อนาคตของศาสนจักรในเอเชียขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์อย่างยั่งยืนของคนหนุ่มสาวของเรา” เอ็ลเดอร์เดวิด พี. โฮเมอร์ แห่งฝ่ายประธานภาคเอเชีย ผู้ดูแลเอฟเอสวายของภาคกล่าว “การเข้าร่วมเอฟเอสวายเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พวกเขาจะได้รู้สึกถึงพระวิญญาณและเสริมสร้างศรัทธาของตน เอฟเอสวายเป็นการประชุมที่มีประสิทธิผลมากที่สุดการประชุมหนึ่งที่เราสามารถทำเพื่อคนรุ่นเยาว์ของเราได้—ทั้งเยาวชนที่เข้าร่วมและหนุ่มสาวโสดที่เป็นผู้นำล้วนได้รับพร”
- FSY-Lettering_th.JPG
-
- Indonesia FSY Gathering
- Service Project - Indonesia FSY
- UKR - FSY Indonesia Formation
- Cheerful youth - Mongolia FSY
- Hike to Service Project - Mongolia FSY
- YM Cheer - Mongolia FSY
- FSY Formation - Mongolia FSY
- Taiwan FSY Arrival
- Attentive Youth, Taiwan FSY
- Singing, Taiwan FSY
- YW with counselor, HK FSY
- HK FSY Service Project
- Study group, Hong Kong FSY 2019.
- YSA Leaders Singing, HK FSY
-
| Temple Square is always beautiful in the springtime. Gardeners work to prepare the ground for General Conference. © 2012 Intellectual Reserve, Inc. All rights reserved. | 1 / 2 |
โปรแกรมเอฟเอสวายมีโอกาสให้พัฒนาทางวิญญาณ สังคม ร่างกาย สติปัญญา และการรับใช้ในระดับที่สมดุลกัน ผ่านทางชั้นเรียน การให้ข้อคิดทางวิญญาณ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยให้เยาวชนมีความเข้าใจลึกซึ้งทางวิญญาณมากขึ้น สร้างมิตรภาพ และเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้น
ในการผจญภัยมาร่วมเอฟเอสวายในอินโดนีเซีย สามพี่น้องตระกูลดาซิลวาได้แก่อาริซา อาสิซา กับอาเซนีอายุ 18, 17 และ 15 ปีจากติมอร์เลสเต ต้องประสบกับครั้งแรกของชีวิตหลายเรื่อง ตั้งแต่การเดินทางออกนอกติมอร์เลสเตเป็นครั้งแรก การนั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก และการพบปะกับเยาวชนคนอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกของศาสนจักรเป็นครั้งแรก เพราะพวกเธอเป็นสมาชิกเยาวชนเพียงสามคนของศาสนจักรในติมอร์เลสเต
“ฉันตื่นเต้นมากที่ได้เดินทางจากติมอร์เลสเตไปอินโดนีเซียกับพี่สาว” อาเซนีน้องคนเล็กสุดกล่าวอย่างเบิกบาน “สิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดเกี่ยวกับเอฟเอสวายคือการได้พบปะสมาชิกศาสนจักรคนอื่นๆ และผูกมิตรกับเพื่อนใหม่จากอินโดนีเซีย การศึกษากับเยาวชนคนอื่นๆ ที่เอฟเอสวายรวมถึงการแบ่งปันประสบการณ์และประจักษ์พยานช่วยให้ฉันเข้าใจพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ลึกซึ้งขึ้น ฉันเรียนรู้เยอะมากจากเพื่อนๆ ที่ปรึกษา และผู้ให้คำปรึกษา ทำให้ศรัทธาของฉันเข้มแข็งมากขึ้นจริงๆ”
การประชุมใหญ่เอฟเอสวายแต่ละครั้งเริ่มเตรียมการล่วงหน้าก่อนวันประชุมจริง 14 เดือน ผู้นำหนุ่มสาวโสดได้รับเลือก ได้รับเรียก และรับการอบรมเป็นพิเศษเป็นเวลากว่าเก้าเดือนก่อนถึงการประชุม
“เอฟเอสวายฉลาดมากที่ให้หนุ่มสาวโสดอายุ 20-31 ปีรับใช้เป็นที่ปรึกษา” เอ็ลเดอร์มิลตัน ชิปป์ ผู้สอนศาสนาอาวุโสเอฟเอสวายเต็มเวลาที่รับใช้กับซิสเตอร์ไฮดี ชิปป์ภรรยากล่าว ทั้งคู่ควบคุมดูแลการประชุมใหญ่เอฟเอสวายภาคเอเชีย รวมทั้งอบรมหนุ่มสาวโสดด้วย “หนุ่มสาวโสดเหล่านี้ไม่เพียงสามารถเชื่อมความสัมพันธ์และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนได้ง่ายเท่านั้น แต่การอบรมและการเสียสละที่พวกเขาประสบจะช่วยพัฒนาทักษะด้านการจัดการและทักษะการเป็นผู้นำ ตลอกจนเร่งการเติบโตส่วนตัวของพวกเขาเอง”
การประชุมใหญ่ในมองโกเลียจัดที่ Nairamdal International Children's Complex ห่างจากอูลานบาตอร์ 13 ไมล์ในหุบเขาบายังกอร์ที่สวยงาม Nairamdal หมายถึง “มิตรภาพ” ในภาษามองโกเลีย อากาศสดชื่นแถบภูเขาและท้องฟ้าสีครามเป็นสภาพแวดล้อมที่สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเกือบ 400 คนมีมิตรภาพที่ยั่งยืนต่อกันและจดจำประสบการณ์ของพวกเขาที่ค่าย
“เยาวชนทั่วมองโกเลียยังคงติดต่อกันแม้การประชุมสิ้นสุดไปแล้ว” มิสฮีล เอคทายวันกล่าว เขากับอนาร์ตาส ซานาทคานภรรยารับใช้เป็นคู่สามีภรรยาที่กำกับดูแลภาคการประชุม และรับผิดชอบดูแลโปรแกรมเอฟเอสวายในมองโกเลีย “พวกเขาวิดีโอคุยกันในกลุ่มและยังคงศึกษาด้วยกัน นี่เป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งสำหรับเอฟเอสวายคือดำรงมิตรภาพและเป้าหมายที่ตั้งไว้”
เขากล่าวต่อไปว่า “เราได้รับการติดต่อจากผู้นำศาสนจักรทั่วมองโกเลียที่อัศจรรย์ใจกับความตื่นเต้นและความกระตือรือร้นที่พวกเขาเห็นเมื่อเยาวชนกลับจากเอฟเอสวาย เราพอใจมากที่ได้ยินว่า ‘เยาวชนฮึกเหิม’ ด้วยความปรารถนาจะรับใช้และช่วยเหลือ”
หัวข้อการประชุมปีนี้อิงกับข้อหนึ่งจากพระคัมภีร์ไบเบิล ยอห์น 14:15 “ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา”
“ดิฉันไม่รู้จะคาดหวังอะไรจากเอฟเอสวาย และคุณแม่กังวลว่าดิฉันจะต้องเจอกับอะไรบ้างในการประชุมนี้” เรนี เอสเธอร์ อัลบิโน อายุ 18 ปี จากฮ่องกงกล่าว เธอเป็นสมาชิกใหม่ของศาสนจักรเมื่อเดือนมีนาคมและเป็นสมาชิกคนเดียวในครอบครัว “ที่การฝึกซ้อมร้องเพลง ขณะที่เราร้องเพลงปฐมวัยและตามด้วยเพลงประกอบหัวข้อการประชุม ‘ถ้าเรารักพระองค์’ ดิฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ดิฉันเติบโตมากจากการเข้าร่วมเอฟเอสวาย ตอนนี้ดิฉันมีแรงใจรับใช้พระเจ้ามากขึ้นโดยช่วยเหลือผู้อื่นทุกวัน”
มาริสา ยอกยันคอง ผู้ประสานงานคนหนึ่งในฮ่องกงสังเกตเห็นการเติบโตที่แต่ละกลุ่มประสบตลอดสัปดาห์ รวมทั้งกลุ่มของอัลบิโน
“วันแรก เรามอบหมายคำถามพระกิตติคุณให้แต่ละกลุ่มศึกษาและเตรียมสอนในสองวันสุดท้าย แต่ละวันกิจกรรมเอฟเอสวายจะมีความลึกซึ้งและเนื้อหาสาระมากขึ้นเรื่อยๆ ดิฉันประทับใจมากกับช่วงการสอนอันเปี่ยมด้วยพลังที่เกิดขึ้นช่วงท้ายสัปดาห์” เธอกล่าว “สิ่งที่ทำให้ดิฉันประหลาดใจคือตอนที่ดิฉันทำกิจกรรมต่างๆ กับเยาวชน ดิฉันมีความเชื่อมั่นแรงกล้ามากขึ้น และความตั้งใจแน่วแน่มากขึ้นในการแสวงหาทางวิญญาณของดิฉันส่งผลให้เกิดความตื่นตัวใหม่กับตัวดิฉันเอง นั่นทำให้ดิฉันนึกถึงการเติบโตที่ดิฉันได้รับสมัยเป็นผู้สอนศาสนาในนิวยอร์กซิตี้”
ไต้หวันจัดการประชุมใหญ่ที่มหาวิทยาลัยเอเชียในไถจงเนื่องจากเป็นสถานที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางและมีสภาพแวดล้อมที่ดี สตีฟ ชีหนิงหยาง อดีตประธานสเตคเกาสงตะวันตกกับเฮลีนภรรยาของเขารับใช้เป็นคู่สามีภรรยาที่กำกับดูแลภาคการประชุม
“เอฟเอสวายครอบคลุมมากกว่าสิ่งที่ศาสนจักรทำให้กับการประชุมใหญ่เยาวชนตามปกติ เนื่องจากนี่เป็นเอฟเอสวายครั้งที่สองของไต้หวัน เราจึงต้องการสร้างสรรค์และพัฒนาต่อจากการประชุมใหญ่ครั้งแรกสำหรับคนที่เคยเข้าร่วมมาก่อน” หยางกล่าว “เราออกแบบช่วงการสอนให้อิงประสบการณ์มากขึ้น ซึ่งถูกใจเยาวชนและจับต้องได้มากขึ้น ผมกับภรรยาให้พวกเขาดูภาพถ่ายต่างๆ ของชีวิตเรา รวมถึงช่วงเวลาที่เราอายุเท่าๆ เยาวชน พวกเขาจึงได้เห็นว่าเราก็เหมือนพวกเขานั่นเอง”
การรับใช้งานเผยแผ่ของศาสนจักรเป็นคำถามสำคัญในใจเยาวชนหลายคน ในช่วงค่ำของวันที่สามเยาวชนแต่ละคนในไต้หวันเปิด “จดหมายเรียกเป็นผู้สอนศาสนา” จากประธานสเตคของตน ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการเรียกให้ เตรียม รับใช้ เช้าวันรุ่งขึ้นที่ปรึกษา—ซึ่งส่วนใหญ่เคยรับใช้งานเผยแผ่มาแล้ว—แต่งชุดผู้สอนศาสนาเดินเข้ามาในกลุ่มเยาวชน 600 คนและร้องเพลง “ถูกเรียกให้รับใช้” เยาวชนร้องรับท่อนสร้อยด้วยความกระตือรือร้นขณะพวกเขารับ “ป้าย” ผู้สอนศาสนาของตนมากลัดบนเสื้อ
“ผมกับภรรยาเคยรับใช้งานเผยแผ่และต้องเอาชนะความสงสัยของตนเองและคำคัดค้านของครอบครัวมาแล้ว” หยางกล่าว “ผมจึงแนะนำให้เยาวชนไม่ต้องคิดมากเกินไปในเรื่องนี้”
เหวนเหยิ่น เกา เยาวชนชายอายุ 17 ปีจากไถจงและพี่ชายสามคนของเขาเข้าใจประสบการณ์ของหยางอย่างชัดเจน “ผมรู้สึกไม่คู่ควรเมื่อนึกถึงการรับใช้งานเผยแผ่ ประธานหยางพูดเพียงว่าให้ทำสุดความสามารถแล้วพระผู้เป็นเจ้าจะทรงขยายผลให้เรา คำพูดและเรื่องราวส่วนตัวของประธานทำให้ผมเกิดความเชื่อมั่นและความมุ่งมั่นที่ผมต้องมี ผมจึงตั้งเป้าหมายและรู้สึกมั่นใจว่าผมจะได้รับการนำทางสำหรับอนาคตของผมเมื่อผมตั้งใจจะรับใช้”
ความคิดของเกาสะท้อนความรู้สึกของเยาวชนชายหลายร้อยคนทั่วเอเชียผู้เข้าร่วมเอฟเอสวายปี 2019 และเอาใจใส่คำแนะนำก่อนการประชุมใหญ่ของ ประธานเดวิด เอฟ. อีแวนส์ แห่งฝ่ายประธานภาคเอเชียให้ “เตรียมความพร้อมทางวิญญาณเพื่อรับเหตุการณ์เปลี่ยนชีวิตครั้งนี้ที่ท่านจะพบกับสภาพแวดล้อมที่ดีและสนุกสนาน ซึ่งช่วยให้ท่านรู้สึกถึงปีติของพระกิตติคุณและพัฒนามิตรภาพที่ดีกับคนอื่นๆ”
มาเลเซียและสิงคโปร์จะจัดการประชุมเอฟเอสวายรวมกันเดือนธันวาคมนี้ ในปี 2020 ประเทศไทย พม่า และลาวจะจัดเอฟเอสวายรวมกัน ส่วนกัมพูชาและอินเดียจะจัดการประชุมของตนเอง คาดว่าจะมีเยาวชนกว่า 2,000 คนเข้าร่วมการประชุมเหล่านี้
ศาสนจักรได้ประกาศแผน ขยายเอฟเอสวาย สำหรับเยาวชนวิสุทธิชนยุคสุดท้ายไปทั่วโลกโดยเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2020 พร้อมกับโครงการใหม่ชื่อ โครงการเด็กและเยาวชนทั่วโลก เอฟเอสวายจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธานภาคและผู้นำระดับภาค