ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย บริจาคเครื่องช่วยหายใจให้แก่โรงพยาบาลอุดรธานีและบริจาคเครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าให้แก่
โรงพยาบาลกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี

           เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2024 ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายได้มีการบริจาคส่งมอบเครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี โดยเอ็ลเดอร์และซิสเตอร์แอตคินสัน คู่ผู้สอนศาสนาสูงอายุ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านงานมนุษยธรรมของศาสนจักรฯ ติดต่อโรงพยาบาลและโรงพยาบาลได้ร้องขอเครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้า ซึ่งทางศาสนจักรฯได้มีการเลือกผู้ขายและลงนามในสัญญาเพื่อส่งมอบเครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าตามยี่ห้อที่โรงพยาบาลร้องขอ และมีผู้พร้อมที่จะให้การฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน เครื่องกระตุ้นหัวใจ โดยในการบริจาคครั้งนี้แต่ละเครื่องมีแผ่นโลหะที่ระบุว่าเครื่องดังกล่าวได้รับบริจาคจากศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ดังนั้นใครก็ตามที่ใช้เครื่องดังกล่าวในอนาคตเพื่อจะได้ทราบว่าเครื่องดังกล่าวมาจากที่ใด

           และเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2024 ณ ห้องประชุมชั้น 7 อาคารผู้ป่วยนอกและอำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี โดยนายแพทย์ทรงเกียรติ เล็กตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี และคณะผู้บริหาร รับมอบเครื่องช่วยหายใจ จำนวน 8 เครื่อง มูลค่า 6,160,000 บาท จากมูลนิธิศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย The Foundation of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints ซึ่งจุดเริ่มต้นโดย เอ็ลเดอร์และซิสเตอร์วัตส์
คู่ผู้สอนศาสนาอาวุโสเต็มเวลาที่รับใช้ที่จังหวัดอุดรธานีในชณะนั้น ได้มีโอกาสรับใช้โดยการสอนภาษาอังกฤษที่โรงพยาบาลอุดรธานีมาเป็นเวลาเกือบปีแล้ว เอ็ลเดอร์และซิสเตอร์วัตส์ได้มีโอกาสเข้าไปที่โรงพยาบาลอุดรธานีเพื่อดูว่ามีอุปกรณ์ทางการแพทย์ใด ที่ศาสนจักรสามารถช่วยเหลือได้หรือไม่ ต่อมาเอ็ลเดอร์และซิสเตอร์แอตคินสันเดินทางมาที่โรงพยาบาลหลังจากนั้น และทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเพื่อตัดสินใจว่าเครื่องช่วยหายใจเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นที่สุดที่โรงพยาบาลต้องการในขณะนั้น และศษสนจักรฯสามารถช่วยเหลือได้ ทั้งสี่ท่านใช้เวลาค่อนข้างนานในการพูดคุยกับผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเพื่อลงนามในสัญญานี้ โดยซิสเตอร์วัตส์ได้กล่าวว่า“ครอบครัวแอตคินสันขยันขันแข็งมากในการทำงานรับใช้ร่วมกับโรงพยาบาลฯเพื่อช่วยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อีกครั้งหนึ่ง” ทั้งนี้ในวันที่มีการบิริจาค เอ็ลเดอร์วัตส์และเอลเดอร์แอตคินสันได้รับเชิญให้พูด และท่านชื่นชมเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสำหรับงานของพวกเขา ท่านยังได้แบ่งปันความปรารถนาของพวกท่านในฐานะสมาชิกของศาสนจักรที่จะเป็นพรแก่ชีวิตของผู้อื่น และในการส่งมอบครั้งนี้ เราได้ฟังประธานกฤษฎา พูนศรี ซึ่งแบ่งปันประจักษ์พยานของเขาเกี่ยวกับความปรารถนาของศาสนจักรที่จะรับใช้ผู้อื่น ท่านซาบซึ้งใจมากที่ได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ของการบริจาคครั้งนี้ที่จะเป็นพรแก่ชีวิตหลายชีวิต และโรงพยาบาลบอกว่าเครื่องช่วยหายใจได้ถูกนะนำไปใช้ประโยชน์แล้ว

        ศาสนจักรฯได้มีโอกาสพูดคุยและสัมภาษณ์เล็กน้อยกับนายแพทย์สุรพงษ์ แสนโภชน์ (นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์คนที่ 1) ท่านกล่าวความรู้สึกว่า “รู้สึกดีใจมาก โดยปกติที่เราปฏิบัติงานกันอยู่ทุกวันนี้ เราก็มีปัญหาในเรื่องของเครื่องมืออยู่ รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ แต่ด้วยปริมาณคนไข้บ้านเราที่เยอะมากและช่วงนี้มีการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจ เพราะฉะนั้นอัตราการใช้มันยิ่งสูงขึ้นในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลอุดรธานี เป็นโรงพยาบาลที่จะดูแลคนไข้ในเคสที่ค่อนข้างยากเพราะฉะนั้นอัตราการใช้เครื่องช่วยหายใจมีปริมาณมากขึ้น และยาวนาน บางเคสอาจใช้ 20-30 วัน หรือในเคสอุบัติเหตุคนไข้อาจจะใช้ยาวนานเป็นเดือนๆ เครื่องมือพวกนี้ต้องมีการหมุนเวียนเพื่อเอาไปบำรุงรักษาด้วยส่วนนึง ทำให้มีปัญหาขาดแคลนในบางช่วง ที่จังหวัดอุดรธานีมีอยู่ประมาณ 200 เครื่องในทุกโมเดล แต่บางโมเดลไม่ได้มีการอัพเดท จะต้องใช้เวลา ดังนั้นการที่เราได้ยินข่าวดีว่าทางคริสตจักจะบริจาคมาเรารู้สึกว่าช่วยแก้ปัญหาเราได้เยอะโดยเฉพาะคนไข้เราเป็นประโยชน์ต่อคนไข้มาก”

ดังที่ข้อความจากพระคัมภีร์มอรมอน ในหนังสือ 2 นีไฟ บทที่ 26:30 ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องจิตุศลไว้ว่า  “ดังนั้น, พระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าจึงประทานพระบัญญัติไว้ข้อหนึ่งว่ามนุษย์ทั้งปวงควรมีจิตกุศล, ซึ่งจิตกุศลคือความรัก. และหากพวกเขาไม่มีจิตกุศลพวกเขาย่อมไม่เป็นอะไรเลย. ดังนั้น, หากพวกเขามีจิต กุศลพวกเขาจะไม่ยอมให้คนงานในไซอันตาย.”

ขอบคุณแหล่งข่าว/บทความและภาพ : โดย นุสรา คุณพระเมือง