ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเชิญสาธารณชนมาเยี่ยมชมพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย ซึ่งเป็นพระวิหารแห่งแรกในประเทศไทยและแห่งที่สามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตั้งแต่วันนี้ 28 สิงหาคม ถึง 31 สิงหาคม จะเป็นช่วงให้แขกรับเชิญมาเยี่ยมชมพระวิหาร สาธารณชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ฟรีโดยมีผู้นำทัวร์จัดไว้ให้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึง 16 กันยายน ยกเว้นวันอาทิตย์ เอ็ลเดอร์โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองจะอุทิศพระวิหารในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้
Downloadable B-roll & SOTs | Temple Fact Sheet PDF | Media Kit | Additional Photos
- 3eee67fcff0e11ed95c2eeeeac1ec709d59302b7.jpeg
- Bangkok-Thailand-Temple-Open-House
- 504fa6842d6811ee95a7eeeeac1ef7e695ab1192.jpeg
- 078fb0192d6811eea098eeeeac1e3aaa11047020.jpeg
- Bangkok-Thailand-Temple-Open-House
- 697b1a5d2d6b11ee9a0ceeeeac1e63a21fa0ef3f.jpeg
- 5076cb9e2d6a11ee9ff4eeeeac1e226c7dc25b58.jpeg
- Bangkok-Thailand-Temple-Open-House
- bfe0ad2e2d6a11ee9733eeeeac1e01f12d360fd5.jpeg
- 7788523c2d6a11ee9f41eeeeac1ed467b1f57095.jpeg
- Bangkok-Thailand-Temple-Open-House
- 7f0b58652d6911ee95a7eeeeac1ef7e623169662.jpeg
- 0b452c1d2d6a11ee9ff4eeeeac1e226c92079baf.jpeg
- Bangkok-Thailand-Temple-Open-House
- e70ce7b82d6a11eea35feeeeac1ed411a3613bed.jpeg
- 7dbbb8cb2d6711ee92b9eeeeac1e7acff935519c.jpeg
- Bangkok-Thailand-Temple-Open-House
- 7df263bc2d6811ee94b3eeeeac1ead7213b30f27.jpeg
- 2d8fbf5c2d6b11ee92b9eeeeac1e7acf7dd731ec.jpeg
- 864738cd2d6711ee9733eeeeac1e01f1417a9a15.jpeg
- Bangkok-Thailand-Temple-Open-House
- 519f1ad0ff0e11ed8b79eeeeac1e923b143ef38a.jpeg
1 / 2 |
“นับว่าเป็นอาคารที่สวยงามในเมืองที่งดงามอย่างยิ่ง แต่นี่เป็นมากกว่าแค่อาคาร” เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าว “เราถวายสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้แด่พระเจ้า และพระองค์ทรงมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่พระองค์ทรงสามารถทำได้ให้เรา นี่คือสถานที่ที่สวรรค์และโลกเชื่อมต่อกัน ช่วยให้เราสามารถผูกมัดกับบรรพชนของเรา ครอบครัวของเรา เพื่อทำให้ครอบครัวเป็นนิรันดร์”
พระวิหารเป็นพระนิเวศน์ของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ ภายในอาคารศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ วิสุทธิชนยุคสุดท้ายเรียนรู้จุดประสงค์ของชีวิตและมีส่วนในพิธีการที่ทำให้ครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งในอดีตและปัจจุบัน พระนิเวศน์แต่ละแห่งของพระเจ้าเป็นสัญลักษณ์ถึงความสำคัญของศรัทธาในพระเจ้า ความจำเป็นในการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอเอซิสแห่งสันติสุข สมาชิกเชื่อว่า “โดยผ่านการชดใช้ของพระคริสต์ มนุษยชาติจะรอดได้โดยการเชื่อฟังกฎและศาสนพิธีทั้งหลายของพระกิตติคุณ”
ในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ เอ็ลเดอร์กองกล่าวว่าท่านกับซูซานภรรยามากรุงเทพฯ ครั้งแรกเมื่อ 43 ปีที่แล้ว เมื่อตอนที่ท่านกำลังศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
“เรารู้สึกสำนึกคุณที่ประเทศไทยให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา” เอ็ลเดอร์กองกล่าว “ในประเทศไทย บุคคลและครอบครัวมากกว่า 23,000 คนเป็นสมาชิกศาสนจักรของเรา เราเป็นเพื่อนบ้านของท่านและเป็นมิตรสหายของท่าน การประชุมนมัสการในวันอาทิตย์ของเราเปิดกว้างและยินดีต้อนรับทุกคน มีกลุ่มนมัสการและอาคารประชุมที่เป็นมิตรของเราอยู่ทั่วประเทศไทย”
อัครสาวกอธิบายว่าวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า พยายามที่จะสร้างครอบครัวที่เข้มแข็งและเป็นพลเมืองที่ดี
“ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีและมิตรที่ดี เราพยายามที่จะมีความเห็นอกเห็นใจ มีใจเมตตา และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่” ท่านกล่าว “เราช่วยเหลือคนยากจนและคนขัดสน ตัวอย่างเช่น เราตอบสนองอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดอุทกภัย ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือความต้องการอื่นๆ ของชุมชน เป็นเวลาหลายปีที่สมาชิกศาสนจักรของเราได้รับสิทธิพิเศษให้ทำงานร่วมกับมูลนิธิพระบรมราชูปถัมภ์ ตัวอย่างเช่น งานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การฝึกอบรมและความช่วยเหลือในการจัดหารถเข็นสำหรับผู้พิการเคลื่อนไหวไม่ได้ การฝึกอบรมกู้ชีพทารกแรกเกิดเพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพช่วยชีวิตทารกที่มีความเสี่ยง และแหล่งน้ำและบ่อน้ำที่ขาดแคลนในพื้นที่ชนบท แน่นอนว่าไม่มีกลุ่มใดสามารถทำทุกอย่างที่จำเป็นได้ แต่เราแต่ละคนสามารถทำส่วนเล็กๆ ของเราได้”
บุคคลอื่นๆ ที่พูดในการแถลงข่าว ได้แก่ อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.พิจิตต รัตตกุล (สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบริคัมยังก์) และ รศ. ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน
ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าวว่าท่านขับรถผ่านพระวิหารระหว่างการก่อสร้างและชื่นชมความสวยงามของพระวิหาร “พระวิหารที่ทรงคุณค่าก็จะเป็นพระวิหารที่อยู่คู่กับกรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งรวมใจของพวกเรา พระวิหารแห่งนี้ มันแสดงถึงศรัทธาอันแรงกล้า แสดงถึงความเชื่อ แสดงถึงหลักการ ทำให้เราสามารถรังสรรค์สร้างศาสนสถานที่มีคุณค่า”
- Bangkok-Thailand-Temple-Media-Day
- Bangkok-Thailand-Temple-Media-Day
- Bangkok-Temple-Media-Day
- Bangkok-Temple-Media-Day
- Bangkok-Thailand-Temple-Media-Day
- Bangkok-Thailand-Temple-Media-Day
- Bangkok-Thailand-Temple-Media-Day
1 / 2 |
ศาสนจักรเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์ทางศาสนาของประเทศไทยมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1854 และมีการเติบโตอย่างมากนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 พระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย พระนิเวศน์ของพระเจ้าลำดับที่ 185 ของศาสนจักรเป็นหลักชัยอย่างหนึ่งในการเสริมสร้างศรัทธาของสมาชิกศาสนจักรในประเทศไทยและภูมิภาคโดยรอบ ประเทศไทยเป็นบ้านของกลุ่มนมัสการวิสุทธิชนยุคสุดท้ายมากกว่า 40 แห่ง เป็นเวลาหลายปีที่สมาชิกศาสนจักรในประเทศไทยเดินทางไปฮ่องกง ไต้หวัน หรือสถานที่อื่นเพื่อนมัสการในพระวิหาร
สำหรับบางคน ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทำให้พวกเขาได้ไปพระวิหารเพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น
“มีที่เขียนไว้บน [พระวิหาร] คือ ‘ศักดิ์สิทธิ์แด่พระเจ้า พระนิเวศน์ของพระเจ้า’ อนันต์ เอลดริดจ์กล่าว วิสุทธิชนยุคสุดท้ายคนแรกที่รับบัพติศมาในประเทศไทย (และเป็นผู้สอนศาสนาและประธานคณะเผยแผ่คนแรกที่เป็นคนไทย) “นี่คือความฝันของผมที่จะได้เห็นพระวิหารของพระเจ้าในประเทศไทย”
พระวิหารกรุงเทพประกาศครั้งแรกโดยประธานศาสนจักร โธมัส เอส. มอนสันในเดือนเมษายน 2015 มีพิธีเบิกดินในเดือนมกราคม 2019 ตั้งอยู่เลขที่ 1645/6 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ที่ตั้งพระวิหารแห่งนี้อยู่ในย่านที่อยู่อาศัยและย่านธุรกิจใจกลางเมืองกรุงเทพฯ และใกล้สถานีมักกะสันที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์กรุงเทพฯ
การออกแบบของพระวิหารขนาด 48,525 ตารางฟุตและสูงเกือบ 250 ฟุต เป็นไปตามลวดลายและสีสันที่พบในสถาปัตยกรรมไทย ลวดลายหลากหลายซ้อนทับอยู่บนรูปทรงข้าวหลามตัดหลายรูปแบบด้วยองค์ประกอบของดอกบัวและลายก้างปลา ซึ่งชวนให้นึกถึงลายจักสานที่ใช้ในงานศิลปะและผลิตภันฑ์พื้นเมือง ด้วยการผสมผสานกันของยอดพระวิหารและหน้าต่างที่มีลายฉลุ ทำให้พระวิหารเกิดเป็นภาพเงาที่สวยงามบนเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ
อนุรัตน์ แก้วชา ผู้จัดการโครงการก่อสร้างพระวิหารเล่าว่าเขาไม่รู้จักศาสนจักรของพระเยซูคริสต์เลยก่อนที่กระบวนการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในปี 2019 ในปี 2022 เขาตัดสินใจเรียนรู้เพิ่มเติมว่าเหตุใดพระนิเวศน์ของพระเจ้าจึงสำคัญมากสำหรับวิสุทธิชนยุคสุดท้าย
ไม่กี่เดือนต่อมา เขาเข้าร่วมศาสนจักร
“ผมมีความสุขมากๆ ที่ได้เป็นสมาชิก” แก้วชา กล่าว "ทำไมน่ะหรือ? เพราะตอนนี้ผมรู้สึกสงบในชีวิตมากขึ้น การมาที่นี่แต่ละครั้งมันทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจ สำหรับผม พระวิหารเป็นสัญลักษณ์ของอาชีพการงานและชีวิตผม สถานที่ที่สามารถเยียวยาทุกคนให้พบกับสันติสุขชั่วนิรันดร์ พระวิหารนี้เป็นเหมือนลูกของผมด้วย!”
เอ็ลเดอร์กองกล่าวว่า “เรารู้สึกสำนึกคุณที่มีพระนิเวศน์ของพระเจ้าอยู่ที่นี่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นพระวิหารที่ไม่เพียงสำหรับกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทั่วโลกด้วย เราหวังว่าผู้คนที่ยอดเยี่ยม มิตรสหาย และคนอื่นๆ จะมาสัมผัสถึงความรักของพระเจ้า พวกเขาจะพบกับความสงบ ความศักดิ์สิทธิ์ ครอบครัว การปกป้อง – พวกเขาจะพบปีติสุข
ผู้ที่ต้องการสัมผัสสันติสุขด้วยตนเองสามารถจองเพื่อเยี่ยมชมฟรีได้ที่ BangkokTemple.ChurchofJesusChrist.org