หลังจากการแต่งตั้งวิศิษฐ์และสุมามาลย์ คณาคำเป็นประธานพระวิหารและภรรยาประธานพระวิหารกรุงเทพ ประเทศไทย มีการเรียกที่ปรึกษาที่หนึ่งและที่สองของฝ่ายประธานพระวิหารและคู่สมรสซึ่งจะมาเป็นผู้ช่วยภรรยาประธานพระวิหารเช่นกัน สนิท โชติไพรัตน์จะรับใช้เป็นที่ปรึกษาที่หนึ่งพร้อมกับอรอนงค์ภรรยา และชัยมงคล สุรักขกะจะรับใช้เป็นที่ปรึกษาที่สองพร้อมกับเพชราภรรยาของเขา
ประธานและซิสเตอร์โชติไพรัตน์รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลาในคณะเผยแผ่ประเทศไทย กรุงเทพ สมัยหนุ่มสาวและแต่งงานกันในพระวิหารมะนิลา ฟิลิปปินส์ปี 1991 ประธานโชติไพรัตน์เคยรับใช้ในฝ่ายประธานสเตคกรุงเทพ เคยเป็นอธิการ ประธานสาขา ประธานโควรัมเอ็ลเดอร์และองค์การช่วยอื่นๆ ส่วนซิสเตอร์โชติไพรัตน์เคยรับใช้ในองค์การช่วยต่างๆ เช่น ฝ่ายประธานของสมาคมสงเคราะห์ เยาวชนหญิง และปฐมวัยสเตค เป็นครูและผู้อำนวยเพลงในวอร์ด ทั้งสองท่านมีบุตรชายสองคนและมีหลานสองคน
ประธานและซิสเตอร์สุรักขกะเกิดในกรุงเทพ ประเทศไทย และเข้าร่วมประชุมที่วอร์ดแจ้งวัฒนะสอง ก่อนการเรียกนี้ประธานสุรักขกะรับใช้เป็นที่ปรึกษาที่สองในฝ่ายประธานสเตคกรุงเทพเหนือหลังจากเคยเป็นอธิการ ประธานท้องถิ่น และประธานสาขาหลายครั้งนอกเหนือจากการเรียกอื่นๆ ซิสเตอร์สุรักขกะรับใช้ล่าสุดเป็นครูปฐมวัยและเคยทำการเรียกต่างๆ เช่นประธานสมาคมสงเคราะห์และประธานปฐมวัยทั้งระดับสาขาและระดับท้องถิ่น ที่ปรึกษาที่สองในองค์การเยาวชนหญิงและครูในองค์การช่วยต่างๆ
ที่ปรึกษาทั้งสองและคู่สมรสจะเริ่มการรับใช้เมื่อพระวิหารได้รับการอุทิศ