การให้ความรัก ความเมตตา และเวลาทำได้หลายรูปแบบ ปัจจุบันนี้การให้ทั้งหมดนั้นมาในรูปแบบของนักเดินทางสี่คนที่ผ่านไปเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังคลานไปตามถนนในประเทศลาว เปรียบเหมือนชาวสะมาเรียผู้ใจดียุคปัจจุบัน ดูวาเป็นชายวัยยี่สิบปีที่พิการแต่กำเนิด เมื่อเป็นวัยรุ่น เขาเรียนรู้ “การคลานศอก” เวลาที่ต้องการไปไหนมาไหน เมื่อคนแปลกหน้าสี่คนมองเห็นดูวากำลังคลานลากตนเองไปตามถนนในชนบทที่พวกเขาไปเยือน พวกเขารู้ทันทีว่าไม่สามารถขับรถผ่านไปโดยไม่ช่วยเหลือ ดูวาใช้แขนและขาในการคลานโดยมีรองเท้าแตะสวมอยู่ที่มือทั้งสองข้าง กางเกงที่ขาดวิ่นและเท้าเปล่ามีผิวหยาบกร้าน ดูวากำลังคลานอยู่บนทางเท้าขรุขระและร้อน พวกเขาหยุดรถทันทีเพื่อช่วยเหลือ พวกเขาเกิดความรู้สึกว่าต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เขาพบชายหนุ่มคนนี้ในเส้นทางของพวกเขา
เนื่องจากนักเดินทางทั้งสี่คนพูดภาษาท้องถิ่นไม่เป็น คนขับรถของพวกเขาจึงเป็นคนไปขอชื่อ ที่อยู่และชื่อผู้ใหญ่บ้านของชายหนุ่มคนนั้น นักเดินทางทั้งสี่คนคือ ริชาร์ดและแครอไลน์ คาร์เตอร์ กับ นีไฟและรูบี เจนเซ็นทั้งหมดนี้เป็นอาสาสมัครโครงการเพื่อมนุษยธรรมขององค์กรการกุศลระหว่างประเทศเดเซเร็ทพวกเขาสามารถช่วยหาวิธีให้ดูวาเดินทางไปมาอย่างปลอดภัยได้ (DIC คือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรดำเนินงานโดยกองทุนหลักจากสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย) ดูวาพาพวกเขาไปดูที่พักอาศัยซึ่งเขาอยู่กับพ่อแม่และพี่น้อง เมื่อทำการประเมินและวางแผนช่วยเหลือดูวาด้วยของขวัญเปลี่ยนชีวิต ไม่ถึงสองสัปดาห์ บรรดาอาสาสมัครที่พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งมาก็กลับไปหาดูวาอีกครั้งพร้อมเก้าอี้เข็นสามล้อแบบพิเศษขณะพี่ชายแบกดูวาขึ้นหลังไปยังบ้านที่มีสามล้อคันใหม่รอเขาอยู่ ดวงตาของเขาสดใสและมีรอยยิ้มละลายใจผู้พบเห็น ครอบครัวของดูวาขอบคุณมากเช่นกัน พวกเขาหลั่งน้ำตาขณะมองดูวาพยายามดึงคันโยกไปมาเพื่อขับพาตนเองไปรอบๆ ลานบ้าน
ครอบครัวเจนเซ็นกล่าวว่า “เราจะไม่มีวันลืมรอยยิ้มและความตื่นเต้นของดูวาขณะที่เขาเรียนรู้วิธีใช้เก้าอี้เข็น ความรู้สึกปีติที่เรามีเมื่อมองเขาขับและไม่ต้องคลานอีกแล้ว ทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องกับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ดูวาเฝ้ารอมานาน แต่บัดนี้เขามีความหวังในอนาคตเบื้องหน้าที่สดใสกว่าเดิม”